กสทช. แจงคลื่น dtac-TOT 2300MHz รบกวนคลื่นสัญญาณ BTS

โดยนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ได้มีการแถลงผล หลังมีการหารือร่วมกันกับ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน), บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค และ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จํากัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งมีการชี้แจงไว้ดังนี้

คลื่นสัญญาณ 2300MHz ของ dtac-TOT นั้นใช้งานในย่าน 2370- 2400MHz ส่วนทางระบบรถไฟฟ้า BTS นั้นใช้คลื่น 2400MHz ขึ้นไป ซึ่งจะมีช่วงระยะห่างกันอยู่ที่ 30MHz โดยทางเทคนิคแล้วไม่น่าจะมีปัญหา แต่ด้วยทางบีทีเอสใช้ระบตัวเก่า ซึ่งอาจจะเปิดสัญญาณรับกว้างเกินไป จึงทำให้มารับสัญญาณของคลื่น 2300MHz

ที่มา:https://tech.mthai.com/it-news

ศาลออสเตรเลียสั่งปรับ Apple หลังไม่รับซ่อม iPhone-iPad ที่เคยถูกซ่อมโดยบุคคลที่สาม

ศาลออสเตรเลียสั่งปรับบริษัท Apple กว่า 9 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือกว่า 6.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังปฏิเสธการซ่อม iPhone และ iPad ที่เคยถูกซ่อมด้วยบุคคลที่สามที่ไม่ใช่ Apple มาก่อน กรณีนี้มีผู้ใช้หลายรายแจ้งไปยัง Apple เพื่อขอความช่วยเหลือหลังเจอปัญหาที่เรียกว่า "Error 53" ซึ่งเป็นการอัพเดตซอฟต์แวร์ที่ทำให้อุปกรณ์กลุ่มดังกล่าวที่ผ่านการซ่อมโดยบุคคลภายนอกไม่สามารถทำงานได้

Apple ระบุว่าได้ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกับลูกค้าชาวออสเตรเลียอย่างน้อย 275 ราย ว่าอุปกรณ์ของพวกเขาได้รับการซ่อมแซมอย่างไม่ถูกต้อง และจากข้อมูลของหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคของออสเตรเลีย ระบุว่าทาง Apple ต้องพบกับลูกค้าที่มีปัญหาในเรื่องนี้กว่า 5,000 ราย 

แม้ปัญหา Error 53 (ที่เกิดจากการเปลี่ยนตัวเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือโดยช่างที่ไม่ใช้ศูนย์บริการของ Apple) จะส่งผลกระทบต่อการใช้งานเครื่องทั้งหมด ไม่ใช่แค่ส่วนของเซ็นเซอร์สัมผัส แต่ปัญหาดังกล่าวก็เกิดจากการเชื่อมต่อระหว่าง Touch ID และระบบ Secure Enclave (ระบบปกป้องรหัสและข้อมูลลายนิ้วมือของผู้ใช้งาน Touch ID) นั่นเอง และต่อมา Apple ก็ได้ออก Patch มาแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว

Apple เคยให้ข้อมูลกับเว็บไซต์ The Verge ในครั้งแรกที่ปรากฎปัญหา Error 53 ช่วงปี 2016 ว่า นี่เป็นผลจากการตรวจสอบด้านความปลอดภัยว่าอุปกรณ์กลุ่มดังกล่าวใช้เซ็นเซอร์ Touch ID ที่ถูกต้องหรือไม่

"ถ้า iOS พบว่าเซ็นเซอร์ที่ใช้ไม่เข้าคู่กัน การตรวจสอบจะให้ผลว่าล้มเหลว และ Touch ID รวมถึง Apple Pay ก็จะถูกปิดการใช้งาน"

ที่มาhttps://www.theverge.com/2018/6/19/17478294/apple-australia-court-fee-error-53-fix

     https://news.thaiware.com/13757.html

Apple โดนอีกแล้ว!! ถูกเรียกค่าลิขสิทธิ์โลโก้ Siri Shortcuts กว่า 6.4 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา Apple ได้เปิดตัวนวัตกรรมซอฟต์แวร์ หลายอย่างที่งาน WWDC 2018รวมไปถึง iOS 12 ที่มาพร้อม Siri Shortcuts ด้วย แต่ล่าสุดโลโก้ของ Siri Shortcuts นี้เองที่กำลังจะทำให้ Apple โดนฟ้อง!!

ผู้ที่ทำการฟ้อง Apple ในครั้งนี้คือ SHIFT ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพเกี่ยวกับธุรกิจ Blockchain ได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อบริษัท Apple เป็นเงินมูลค่า 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือตีเป็นเงินไทยประมาน 6.4 ล้านบาท

ที่มา: PhoneArena

https://tech.mthai.com/it-news/88236.html

สุดล้ำ!! ชาวสวีเดนกว่า 3,000 คน เริ่มฝังไมโครชิปใต้ผิวหนังเพื่อแทนการพกบัตรต่างๆ

   

    มันเป็นเรื่องหน้าเบื่อมากนะครับที่ทุกวันนี้เราจะต้องพกบัตรมากมายอยู่ในกระเป๋า โดยนวัตกรรมใหม่ล่าสุดนี้ช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างชะงัก เมื่อชาวสวีเดนมากกว่า 3,000 คน ได้เริ่มฝังไมโครชิปสำหรับเก็บข้อมูลเกือบทุกอย่างในชีวิตไว้ใต้ผิวหนังกันแล้ว ซึ่งไมโครชิปนี้ช่วยให้ชีวิตของผู้ฝังไมโครชิปนี้ดูง่ายขึ้นมากจะเป็นยังไงเดี๋ยวเราไปดูกัน

   ที่ชีวิตดูง่ายขึ้นนั้น เป็นเพราะ ผู้ฝังไมโครชิปไม่จำเป็นต้องพกบัตรประชาชน, คีย์การ์ดสำหรับเข้าคอนโด, บัตรเครดิต, บัตรสมาชิกฟิตเนส, ตั๋วรถไฟ รวมไปถึงบัตรพนักงานอีกต่อไป เพราะข้อมูลทุกอย่างจะอยู่ในไมโครชิป เรียกว่าแทบไม่ต้องพกเงินสดหรือบัตรให้วุ่นวายกันอีกแล้ว

    ซึ่งในประเทศสวีเดนตอนนี้มีคนฝังไมโครชิปมากถึง 3,000 คนในปีที่ผ่านมา ซึ่งขนาดของไมโครชิปนั้นมีขนาดเพียงเท่าจมูกข้าวเท่านั้น และจะฝังลงใต้ผิวหนังบริเวณหลังมือผ่านเข็มฉีดยาแทบจะไม่รู้สึกว่ามีมันอยู่ในร่างกาย เป็นอะไรที่ทำให้เราสะดวกสบายมากขึ้น

ที่มาhttps://tech.mthai.com/it-news/88074.html

วันพฤหัสบดีที่31 พฤษภาคม 2561

ที่มาhttp://www.chaintana.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4/